7 เรื่องต้องรู้ ก่อนเริ่มต้นลง...
ReadyPlanet.com


7 เรื่องต้องรู้ ก่อนเริ่มต้นลงทุนสำหรับมือใหม่


 1. รู้จักเป้าหมายในการลงทุนของตนเอง

สำหรับผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นลงทุน สิ่งแรกที่นักลงทุนมือใหม่ควรต้องรู้ คือต้องรู้ว่าตนเองนั้น “มีเป้าหมายการลงทุนอะไร?” เพื่อที่จะได้รู้ว่าต้องเริ่มต้นใช้เงินทุนเท่าไหร่? และต้องลงทุนในทางเลือกการลงทุนแบบใด? เพื่อจะบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
 
นอกจากเป้าหมายในการลงทุน อีกสิ่งหนึ่งที่เราควรต้องรู้ คือสไตล์ของการลงทุน ที่จะสอดคล้องไปกับการเลือกช่องทางในการลงทุน โดยคนที่สามารถรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มาก ย่อมมีทางเลือกการลงทุนที่แตกต่างจากคนที่รับความเสี่ยงในการลงทุนได้น้อย หากค้นหาสไตล์การลงทุนที่เข้ากับตนเองได้ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนได้เช่นกัน
 
2. มีพื้นฐานความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
การจะเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จจากการลงทุนได้นั้น ผู้ที่สนใจเริ่มต้นลงทุนต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนเสียก่อน ด้วยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งมีช่องทางที่ช่วยเสริมความรู้ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ งานสัมมนา สื่อออนไลน์
 
แต่การศึกษาพื้นฐานเกี่ยวกับการลงทุนนั้น จำเป็นต้องเลือกแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ หรือต้องมาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ไม่ควรเริ่มต้นด้วยการฟังข้อมูลจากคนใกล้ตัว หรือคนที่เป็นมือใหม่ด้านการลงทุนเหมือนกัน เพราะมีความเสี่ยงที่จะวิเคราะห์ข้อมูลผิดพลาดหรือสื่อสารไม่ครบถ้วนได้
 
 3. รู้จักทางเลือกในการลงทุน
เชื่อว่าสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ย่อมมีคำถามในใจว่า ควรเริ่มต้นลงทุนอะไรดี? ซึ่งรูปแบบการลงทุนแต่ละประเภท ต่างให้ผลตอบแทนที่แตกต่าง และมีทั้งความเสี่ยงมากและความเสี่ยงน้อย โดยทางเลือกลงทุนหลักที่เหมาะแก่ผู้เริ่มต้นลงทุนมีด้วยกัน 6 ประเภท ดังนี้
 
●      หุ้น เป็นการลงทุนที่มีการซื้อ-ขายง่าย มีโอกาสสร้างกำไรได้สูง แต่มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน
 
●      กองทุนรวม เป็นช่องทางที่มีนโยบายในการลงทุนให้เลือกหลากหลาย มีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดูแลให้ซึ่งความเสี่ยงและผลกำไรจะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละกองทุน รวมถึงการบริหารของผู้จัดการกองทุนอีกด้วย
 
●      ตราสารหนี้ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เหมาะแก่การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และยังให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
 
●      อสังหาริมทรัพย์ เป็นการลงทุนที่สามารถสร้างรายรับอย่างสม่ำเสมอ (Passive income) ให้แก่ผู้ลงทุนได้ มีความผันผวนต่ำ ความเสี่ยงน้อย และมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา
 
●      ทองคำ เป็นการลงทุนที่มีสภาพคล่องสูง มีความเสี่ยงปานกลาง และสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้อย่างรวดเร็ว
 
ประกันควบการลงทุน เป็นการทำประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิต และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนที่ลูกค้าเลือก
 
สำหรับผู้ต้องการเริ่มต้นลงทุน ควรเลือกกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม
4. รู้กลยุทธ์ในการลงทุนที่เหมาะกับตนเอง
            เพราะเป้าหมายในการลงทุนของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนต้องการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเร็ว บางคนอยากลงทุนเพื่อเก็บออม สร้างความงอกเงยให้เงินของตนเอง  ซึ่งจำเป็นต้องเลือกช่องทางในการลงทุน และยอมรับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน รวมทั้งยังต้องวางแผนการลงทุนแตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งกลยุทธ์ในการลงทุนสามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบหลัก
 
●      ลงทุนแบบความเสี่ยงน้อย ระยะยาว
 
กลยุทธ์ในการลงทุนรูปแบบนี้ เหมาะสำหรับคนที่วางเป้าหมายในการลงทุนระยะยาว ต้องการลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น หุ้นในบริษัทใหญ่ที่มีความมั่นคง ทองคำ ตราสารหนี้
 
●      ลงทุนแบบความเสี่ยงปานกลาง ปรับแผนทุก 3-6 เดือน
 
สำหรับคนที่ต้องการลงทุนแบบมีความเสี่ยงปานกลาง เหมาะกับการซื้อหุ้นรายตัว โดยต้องซื้อหุ้นกระจายหลายตัว และแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในตราสารหนี้ เพื่อลดความเสี่ยง
 
หากหุ้นราคาลงให้ขายและสลับไปลงทุนในตราสารหนี้ แต่ถ้าหุ้นราคาขึ้น ให้ขายตราสารหนี้ และสลับมาลงทุนในหุ้นแทน โดยต้องติดตามวิเคราะห์หุ้น และผลตอบแทนในตราสารหนี้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังต้องปรับแผนการลงทุนใหม่ทุก 3-6 เดือน เพื่อให้เหมาะสมตรงตามผลตอบแทนที่ต้องการที่สุด
 
●      ลงทุนแบบความเสี่ยงสูง ปรับตัวตามสถานการณ์
 
กลยุทธ์การลงทุนนี้ ไม่ค่อยเหมาะสมกับนักลงทุนมือใหม่นัก แต่เหมาะกับผู้ที่กล้าเสี่ยง และต้องการผลตอบแทนสูงในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งยอมรับความเสี่ยงที่สูงได้ โดยจะเป็นการซื้อหุ้นแบบรายตัวทั้งหมด ไม่แบ่งเงินไปลงทุนในช่องทางอื่น ๆ ซึ่งผู้ที่เลือกกลยุทธ์การลงทุนนี้ ต้องติดตามสถานการณ์ของหุ้นแต่ละตัวอย่างใกล้ชิด และตัดสินใจซื้อ-ขายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
 
5. รู้จักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกการลงทุนใดก็ตาม ผู้ลงทุนต้องเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานที่จะส่งผลกระทบต่อการขึ้นลงของราคา ทั้งยังต้องรู้จักการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเหล่านั้น เพื่อที่จะกำหนดกรอบการลงทุนได้อย่างเหมาะสม
 
ปัจจัยพื้นฐานที่สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบัน และคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต เพื่อใช้ประกอบในการตัดสินใจเลือกสินทรัพย์ที่จะลงทุนนั่นเอง
 
6. รู้จักการสร้างพอร์ตลงทุนที่เหมาะกับตนเอง
เมื่อผู้ลงทุนรู้เป้าหมายในการลงทุนแล้ว และรู้จักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ที่จะสามารถนำมาประกอบการตัดสินใจเลือกสินทรัพย์และช่องทางในการลงทุนแล้ว ต้องรู้จักสร้างพอร์ตลงทุนที่เหมาะกับตนเอง
 
ในการสร้างพอร์ตลงทุน ต้องกระจายความเสี่ยงของพอร์ตให้อยู่ในเกณฑ์ที่ตนเองยอมรับได้ และเหมาะกับเป้าหมายในการลงทุนของตนเอง เพื่อให้การลงทุนสามารถบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
 
7. รู้จักติดตามและทบทวนแผนการลงทุนเสมอ
หลังจากที่สร้างพอร์ตที่เหมาะกับตนเอง และเริ่มต้นลงทุนไปแล้ว ผู้ลงทุนต้องหมั่นทบทวนแผนการลงทุนอยู่เสมอ โดยดูว่าผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือยัง และทำการปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นต่อไป
 
นี่คือ 7 สิ่งสำคัญที่ผู้ต้องการเริ่มต้นลงทุนต้องรู้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนมากยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นลงทุน เราขอแนะนำ แอปที่คุณสามารถลงทุนน้อยแต่ได้กำไรสูง เพียงไม่กี่วัน คุณก็จะมีกำไรมากมาย เพียงแค่ลงทุนไม่กี่บาท หากคุณสน << คลิ้ก >>


ผู้ตั้งกระทู้ POPCORN :: วันที่ลงประกาศ 2023-11-13 19:09:41


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.