|
แนะนำ 5 ร้านเด็ดย่านสามเสน อร่อยจนไม่อยากให้พลาด!แนะนำ | |
สามเสน เป็นอีกหนึ่งย่านที่ถือว่าอยู่ใจกลางกรุงเทพ แต่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่าในย่านนี้มีของอร่อยๆ ร้านอาหาร และคาเฟ่เกิดขึ้นมากมาย การเดินทางก็สะดวกสบาย วันนี้เราเลยจะพาไปเช็คอินกับ 5 ร้านย่านสามเสน ที่เราคัดมาให้แบบเน้นๆ แล้วเด็ดจริง! 1.กิน อยู่ ได้ at สามเสน ไม่เพียงกินแล้วคิดถึงรสมือแม่และความทรงจำในวัยเด็กเท่านั้น แต่ความอร่อยของอาหารไทยสุดคลาสสิกที่หลายเมนูอาจไม่ค่อยได้กินบ่อยนักในยุคนี้ของ “กิน อยู่ ได้ at สามเสน” ยังทำให้เราอยากกลับมา “กิน อยู่ ได้” (ทุกวัน) สมชื่อร้านอีกด้วย อีกทั้งการตกแต่งชวนให้รู้สึกเหมือนมาบ้านเพื่อนที่อบอุ่นสบายใจ เต็มไปด้วยของสะสมจากประเทศต่างๆ ยิ่งชวนให้อยากนั่งซึบซับบรรยากาศแสนอิ่มเอมใจ
เมนูแนะนำ สามชั้นคั่วพริกเกลือ เมนูยอดนิยมที่ใช้เนื้อหมูหมักทอดกรอบนอกนุ่มในคลุกร้อนๆ กับพริก กระเทียม และเม็ดพริกไทยอ่อน
แกงนพเก้า แกงกะทิโบราณกลมกล่อมหอมมันที่รวมความอร่อยผักต่างๆ ถึง 9 ชนิด กุ้งสด และหมูสามชั้น
ยำวุ้นเส้นโบราณ รสจัดกำลังดี ใส่กากหมูกรุบกรอบ กินเพลิน แต่ถ้ามาคนเดียวลองสั่ง
พิกัด : ซอยเศรษฐศิริ (ติดกับร้าน Gram Pancake) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 2.บ้านนวลร้านอาหารไทยในบ้านไม้หลังเล็กที่ให้ความรู้สึกของคำว่า “บ้าน” มากกว่า “ร้านอาหาร” จากฝีมือของ 2 พี่น้องที่คลุกคลีอยู่ในครัวกับคุณแม่และพี่ป้าน้าอามาตั้งแต่เล็ก เห็นร้านดูเรียบๆ แต่คนเข้าคิวจองเพียบนานเป็นเดือนๆ จนสร้างปรากฏการณ์ในโซเชียลว่าเป็นร้านจองยากที่สุดในประเทศ ได้ยินแบบนี้ทำเอาเราและสายกินทั้งหลายตื่นเต้นต้องรีบตามมาพิสูจน์ว่ารสชาติจะน่าทึ่งสมคำร่ำลือหรือไม่
เมนูแนะนำ ข้าวผัดกากหมู เมนูเรียบง่ายที่พ่อตั้งใจปรุงให้ลูกกิน ใช้กากหมูเจียวใหม่ผัดกับข้าวหอมมะลิเรียงเมล็ดสวย เวลากินเหยาะน้ำปลาพริกนิดหน่อย
กุ้งทอดเกลือ กุ้งแม่น้ำคั่วในน้ำมันร้อนๆ พอใกล้จบตบท้ายด้วยกระเทียม รอให้กลิ่นหอมฟุ้งค่อยตักขึ้นพร้อมกัน เนื้อกุ้งเคี้ยวสู้ฟัน ส่วนน้ำมันกระเทียมเจียวถือเป็นไฮไลท์ที่ใครต่อใครต้องยื้อแย่งกันตักคลุกข้าวกิน
คอหมูย่าง เป็นเมนูที่มีเฉพาะมื้อเย็นเพราะหมูสูตรไม่ลับฉบับคุณแม่ต้องใช้เวลาในการหมักให้ซึมลึกถึงเนื้อใน แต่ใครได้กินไม่มีคำว่าผิดหวัง แนะนำสั่งให้เพียงพอ เพราะหมดแล้วหมดเลยสั่งเพิ่มไม่ได้
พิกัด : ซอยสามเสน 2 ถนนสามเสน เขตพระนคร กรุงเทพฯ 3.OO PASTAร้านพาสต้าเส้นสดขนาดกะทัดรัดบนถนนสามเสนที่ตอนนี้กลายเป็น 1 ในร้านพาสต้าคิวแน่นที่ใครๆ ก็อยากมาลองชิมให้ได้สักครั้ง โดยเชฟโมน ธีระธาดา เชฟหนุ่มฝีมือดี (เชฟหน้ากากแดงจาก The Next Iron chef season 2) ที่อยากให้ร้านนี้เป็นเหมือนห้องทดลองขนาดเล็ก ที่นี่เราจะได้เห็นทีมเชฟลงมือทำเส้นพาสต้าหลากหลายรูปทรงกันใกล้ๆ ตั้งแต่สปาเกตตีไปจนถึงพาสต้าแบบยัดไส้ เหมือนได้ชมงานคราฟต์ในอีกรูปแบบหนึ่ง
เมนูแนะนำ Gnocchi ญอกกีเนื้อแน่นและหนึบจับคู่กับซอส Rosa ญอกกีเนื้อแน่นและหนึบจับคู่กับซอส Rosa ซอสสีส้มพาสเทลจากมะเขือเทศและปาปริก้า ใส่แซลมอนลงไปด้วย รสเข้มข้นครีมมี่ถูกปาก
Farfalle พาสต้ารูปโบจับคู่กับซอส Tomato Reduction ที่หลายคนติดใจ โดดเด่นที่รสเปรี้ยวสดชื่นจากมะเขือเทศสด ใส่ไส้กรอกอิตาเลียน จบด้วยกลิ่นหอมจากโหระพา
Spaghetti ผัดกับซอส Squid ink หรือซอสหมึกดำเสิร์ฟพร้อมกุ้งย่างสีส้มตัดกัน ได้ทั้งกลิ่นหอมและรสทะเลเข้มข้นเต็มคำ
พิกัด : 169 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพ 10200 4.MTCH (เอ็ม-ที-ซี-เอช)ทีเลิฟเวอร์คงไม่มีใครไม่รู้จัก MTCH (เอ็ม-ที-ซี-เอช) บาร์มัทฉะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจของ คุณจิว-สรวิศ พันธ์เกษม และ คุณจ๊ะเอ๋-เชฐธิดา เนตรมุกดา ซึ่งตอนนี้ร้านได้ย้ายโลเคชั่นใหม่ไปอยู่พหลโยธิน 5 เป็นบ้านเก่าอายุ 40 ปี ที่ดัดแปลงให้เป็นแบบฉบับของ MTCH แท้ๆ สีขาวโพลนเป็นโทนหลักของร้าน ชั้นล่างเป็นบาร์ชาแบบเปิด และแน่นอนว่าตัวร้านกว้างขวางขึ้น สามารถรองรับสาวกมัทฉะได้มากกว่าเดิม
เมนูแนะนำ Arashi เป็นการรวมกันระหว่างชาเขียว 2 สายพันธุ์ คือ Tsuyu Hikari และ Asahi จิบแล้วจะได้กลิ่นหอมๆ ของสโมกกี้ มีความนัทตี้ของถั่วอย่าง ฮาเซลนัท และทิ้งทวนด้วย After Taste ของขนมอบ เป็นการปิดท้าย
Panna Cotta พานนาคอตตามัทฉะโฮมเมด เนื้อเนียนนุ่มเด้ง ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างชาเขียวสายพันธุ์โอคุมิโดริ รสอูมามิ หอมกลิ่นหญ้าอ่อนๆ และสายพันธุ์ยาบูกิตะ ที่ให้รสหวานจากธรรมชาติ กินคู่กับน้ำตาลคุโรมิสึ รสหวานละมุน ละเอียดกี่คำก็ฟินสุดใจ
Matcha Affogato ไอศกรีมฮอกไกโดโฮมเมดสูตรลับฉบับของทางร้าน รสหวานหอม กินพร้อมกับซอสมัทฉะคุณภาพจากเมืองฟุกุโอกะ หอมกลิ่นละม้ายคล้ายคุกกี้ เข้ากันดีกับรสเปรี้ยวอมหวานของสตรอว์เบอร์รีอบแห้ง
พิกัด : 65 พหลโยธิน 5 แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 5.ยามะจัง (SEKAI NO YAMACHAN) ร้านดังแห่งเมืองนาโกย่า ฉลองครบรอบ 6 ปีในบ้านเราด้วยสาขาใหม่ใกล้กว่าที่เคยอย่างอารีย์ พร้อมการตกแต่งแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมด้วยการใช้โทนสีน้ำตาลและงานไม้ ส่วนหน้าร้านประดับด้วยโคมไฟสีแดงสดใส แค่เปิดประตูก็รู้สึกถึงความสนุกสนานสไตล์อิซากายะได้ทันที
| |
ผู้ตั้งกระทู้ TOT89 :: วันที่ลงประกาศ 2023-06-15 21:13:37 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 2070607 |