10 ข้อดี เมื่อเลือกสร้างบ้านกับเรา
1. แบบบ้านทันสมัย เลือกได้ ปรับได้
เรามักจะ “กังวล” จนเครียดเมื่อรู้ว่าจะต้องสร้างบ้าน นั่นเพราะไม่รู้ว่าจะสร้างบ้านแบบไหนดี นึกแบบบ้านไม่ออกเสียเงินแสน เงินล้านทั้งที่ ได้บ้านหน้าตาเชย ๆ มาคงไม่ดีแน่ ครั้นจะเอาความต้องการที่เต็มอกไปบอกเล่าช่างรับเหมา ก็คงเข้าใจกันไปคนละทาง แต่ถ้าเลือกแบบบ้านจัดสรร ที่พร้อมเสร็จเห็นหน้าเห็นตา รู้ว่าสวย เหมาะลงตัว ก็จะธรรมดาไป ใครอีก 100 หลัง 1000หลังก็เหมือนกับบ้านของเรา ไม่ดีแน่ ๆ เรื่องถัดมาคือ ไม่รู้ว่าควรจะกี่หน้าต่าง กี่ประตู และกี่ห้อง และแต่ละห้องจะต้องอยู่ทิศไหนอย่างไร แต่ถ้าเป็นบ้านจากบริษัทรับสร้างบ้าน คุณจะเห็น model บ้านแบบ 3 มิติ เห็นภาพ perspective ภายในบ้านทันที เลือกสไตล์โมเดิร์นทันสมัย หรือจะกึ่งเก่ากึ่งใหม่แบบคอนเทมพอรารี่ หรือจะเอาอารมณ์รีสอร์ทเล็กๆ ก็เลือกแบบเห็นภาพได้ทันทีเหมือนกันเพราะบริษัทรับสร้างบ้านแต่ละแห่งจะมีแบบบ้านมาตรฐานไว้ให้ลูกค้าเลือกนับ 100 แบบ พร้อมราคาค่าก่อสร้างที่คุณสามารถประเมินกำลังของตัวเองได้แต่แรกไม่ถูกใจแบบที่เห็น 100% ติหน้าต่าง ประตู ว่าเล็กแคบ เพดานเตี้ย ชายคาสั้น ฟังก์ชั่นเดิมดูทึบๆ หรือเยอะเกินจำนวนคนขอลดจำนวนห้อง เพิ่มพื้นที่ให้ห้องต่าง ๆ แทน ก็เปลี่ยนแปลง ปรับแก้ได้ สถาปนิกของบริษัทรับสร้างบ้านจะปรับให้ตรงใจคุณโดยทั่ว-
ไปมักไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่จะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยขึ้นมา
2. ขอสินเชื่อง่าย บางรายอาจ 100%
อยากสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่จำเป็นต้องรอเก็บเงินจนพร้อม หากมีคุณสมบัติ มีรายได้ประจำ ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อเพื่อสร้างบ้านได้ เพียงจัดเตรียมเอกสารสำคัญไว้ให้พร้อม คือ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาโฉนดที่ดิน ในกรณีที่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินต้องแนบสำเนาของเจ้าของที่ดิน พร้อมหนังสือยินยอมให้ใช้ที่ดินด้วย
ส่วนเอกสารแบบบบ้าน พิมพ์เขียวทาง บริษัทรับสร้างบ้านจะจัดการไว้ให้ และยื่นเรื่องให้ด้วย อัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ย MLR –0.25%จนถึง MLR -1% รายละเอียดเหล่านี้ บริษัทรับสร้างบ้านแต่ละแห่งสามารถให้ข้อมูลได้ บางบริษัทฯ อาจมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันการเงิน สามารถขออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าได้อีกเล็กน้อย ได้อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่นาน 1 ปี หรืออาจได้อภิสิทธิ์อนุมัติแบบไม่ยุ่งยากและได้วงเงินกู้สูงถึง 100% เต็มก็ได้ ทำให้คุณไม่ต้องรอเก็บออม หรือใช้เงินออมเพื่อการนี้
3. ดอกเบี้ยเงินกู้หักลดหย่อนภาษีได้
การจ่ายเงินของสถาบันการเงินให้กับผู้กู้ และการชำระค่าสร้างบ้านให้กับบริษัทรับสร้างบ้าน จะเป็นการทยอยจ่ายตามเนื้องานที่ระบุไว้ในสัญญางาน ไม่เป็นภาระก้อนใหญ่ โดยทั่วไปสัญญาชำระงวดสร้างบ้านมักแบ่งย่อยเป็น 6-8 งวด โดยงวดแรกประมาณ 15% จ่ายในวันทำสัญญา และงวดสุดท้าย 5% จ่ายเมื่อเสร็จการเก็บรายละเอียดของงาน และส่งมอบงาน ที่เหลือจะแบ่งจ่าย 10-15-20% ตามระยะเวลางานที่แล้วเสร็จ เช่น เสร็จงานเสาเข็ม ฐานราก, เสร็จงานโครงสร้าง โครงหลังคา, เสร็จงานมุงหลังคาเทพื้น, เสร็จงานระบบ, เสร็จงานติดตั้งหน้าต่าง ประตู หากไม่เห็นด้วยกับตัวเลข อาจต่อรองปรับแก้ได้ตามความเหมาะสมและสินเชื่อเงินกู้เพื่อการสร้างบ้าน ก็เหมือนกับสินเชื่อซื้อบ้าน เราสามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้ที่จ่ายไปมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงถึง 100,000 บาท ด้วย
4. บ้านเสร็จแน่นอน ประหยัดงบ ไม่เสียแผน
การสร้างบ้านโดย ว่าจ้างผู้รับเหมา เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย สุดท้ายอาจทำให้เสียเงินมากกว่าเดิม แถมบ้านที่คิดว่าจะแล้วเสร็จในกำหนด 6 เดือนอาจต้องล่าช้าไปอีกหลายเดือน เปลืองเงินงบบานปลายจนแทบจะสร้างบ้านได้อีกหลัง การต่อรอง ค่าสัญญา ค่าปรับ ไม่ง่ายนักที่จะ “ศักดิ์สิทธิ์” ใช้ได้ ส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยการ “ทิ้งงาน–เชิดเงิน” เงินหาย บ้านไม่เสร็จ จะหาช่างใหม่มาแทนก็หวาดผวาไปซะแล้ว บ้านจัดสรรหน้าตาเหมือนกันนั่นเล่า แม้จะแล้วเสร็จตามกำหนดเงินงวด เว้นแต่จะ “โชคร้าย” เจอโครงการมีปัญหาการเงินก็อาจเศร้าใจได้ ขณะที่การสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน โดยทั่วไป มักกำหนดเวลาแล้วเสร็จไว้ที่ 6 เดือน เว้นแต่บ้านขนาดใหญ่มากอาจยาวนานถึง 9 เดือน การจ่ายเงินจะชำระตามงวดงานที่แล้วเสร็จ ซึ่งระบุไว้ในใบสัญญาว่าจ้าง โดยแบ่งสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ให้เหมาะสมกับลักษณะงานงวดนั้น ๆ ประมาณ 5-20 % ขึ้นกับระยะงวดงาน ซึ่งแน่นอนว่า หากงานในงวดนั้นล่าช้า ไม่แล้วเสร็จก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินงวดใหม่ให้ เพื่อความสบายใจของตัวเอง แต่โดยส่วนใหญ่ ทุกบริษัทจะพยายามจัดการสร้างบ้านให้แล้วเสร็จในเวลา เพื่อจะได้มีเงินใหม่เข้ามาดำเนินงานต่อ และไม่เพิ่มต้นทุนในส่วนของค่าแรงคนงานจนทำให้กำไรที่ไม่มากนักหดหายไปด้วย
5. มีคนดูงานแทน แสนสบายใจ
คนงานที่มีหน้าที่สร้างบ้านก็มักจะทำงานไปตามหน้าที่ ก่ออิฐ ฉาบปูน ไปตามระเบียบ รายละเอียดเล็ก ๆ น้อยที่จะทำให้งานละเอียดประณีตขึ้น หรือแม้แต่การปรับแก้ไขแบบหน้างาน เปลี่ยนแปลงวัสดุบางตัว ซึ่งวิศวกร โฟร์แมน จะต้องถ่ายทอดไปตามขั้นตอนงาน และติดตามตรวจตรานั้นมีสิทธิหละหลวม เพิกเฉย อาจเพราะต้องวิ่งหลายที่ ขาดความใส่ใจ สุดท้ายต้องมานั่งรื้อ เสียเงินเสียเวลา เสียความรู้สึก โดยใช่เหตุขณะที่ ขั้นตอนการสร้างบ้านของบริษัทรับสร้างบ้าน นั้นจะมีผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน ตั้งแต่สถาปนิกทำแบบวิศวกรควบคุมงาน โฟร์แมนประจำไซท์งาน มีการตรวจสอบทั้งระดับบนลงล่างและล่างขึ้นบน เพื่อให้งานทุกจุดลุล่วงผ่านตามกำหนดเวลา เป็นการทำงานที่สามารถลดการสูญเสียที่ไม่จำเป็นในเวลาเดียวกัน เจ้าของบ้านจึงสามารถวางใจได้ว่างานทุกส่วนจะเดินตามแบบ ไม่จำเป็นต้องเฝ้าดูทุกวัน
สำหรับการเปลี่ยนแปลงวัสดุนั้นโดยทั่วไปหากเป็นมาตรฐานเดียวกันไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เว้นแต่ว่าจะใช้วัสดุเกรดเหนือกว่าก็ต้องจ่าย
6. ไม่วุ่นวาย ไม่ปวดหัว
รู้รสชาติกันดีว่าการติดต่อกับหน่วยงานราชการต้องใช้ความอดทนขนาดไหน ไม่ได้สำเร็จกันในเวลาสั้น ๆ บางครั้งถ้าโชคร้าย อาจต้องเทียวไปเทียวมาหลายรอบเลยทีเดียว แค่เฉพาะการยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้าง ก็ต้องอภินิหาร วัดใจ ลองผิดลองถูกกันมากมาย กว่าจะได้ใบอนุญาตให้สร้างได้ ไม่รวมถึงการติดต่ออีกหลายหน่วยงานกว่าจะเปิดบ้านเข้าอยู่เข้านอนได้จริง ๆแต่หากเป็นบ้านที่สร้างโดยบริษัทรับสร้างบ้าน ก่อนเซ็นรับบ้านเราต้องตรวจสภาพตัวบ้าน ตรวจระบบสุขาภิบาล ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ซึ่งนั่นหมายความว่า น้ำไหล ไฟสว่าง ทุกดวง ทุกจุด สิ่งเหล่านี้บริษัทรับสร้างบ้านจะดำเนินการติดต่อให้ ตั้งแต่ก่อนสร้างบ้านแล้ว คุณเพียงเตรียมเอกสารให้พร้อม รวมทั้งยื่นขอ “บ้านเลขที่” ให้ด้วย กรณีที่เป็นการปลูกสร้างใหม่ บนที่ดินใหม่ ไม่ใช่สร้างทดแทนบ้านเก่า
7.ไม่ยุ่งยากหาช่างให้มากเรื่อง (ไฟ น้ำ ปลวก)
บ้านไม่ใช่แค่ก่ออิฐ ฉาบปูน ยังต้องจัดการกับที่ดินให้เรียบร้อยด้วย เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นแหล่งอาศัยของปลวกหรือไม่ และแม้ไม่อาศัยในตอนนั้นก็อาจจะมาสร้างรังได้ในวันใดวันหนึ่ง นอกเหนือจาก “ช่างกำจัดปลวก” แล้ว ยังมีอีก “หลายช่าง” ที่เจ้าของบ้านต้องเกี่ยวข้อง เช่น ช่างไฟฟ้า สำหรับเดินระบบสายไฟ ประปา สำหรับงานสุขาภิบาล ท่อน้ำ สุขภัณฑ์ ระบบน้ำทิ้ง หรือแม้แต่การติดตั้งถังเก็บน้ำสะอาดก็จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญขเฉพาะทางทั้งสิ้น งานเหล่านี้จะถูกรวบเป็นงานเดียวกันของบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งจะมีผู้ชำนาญเฉพาะคอยจัดการให้ พร้อมทั้งมีบริการตรวจเช็คเป็นระยะเวลาตามสัญญาที่ตกลงกันไว้
8. รับประกันงาน มีปัญหาซ่อมได้
บ้านทุกหลังที่สร้างใหม่ จะมีปัญหารอยร้าว ซึ่งรอยร้าวเล็กๆ ที่ไม่ใช่การแยกแตกของเนื้อคอนกรีต ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการ“เซ็ตตัว” ของวัสดุและอาคาร อย่าตกใจ แต่ถ้าทรุดเอียงจนเห็นชัด แตกร้าวจนเห็นช่องว่าง ประตู หน้าต่างปิดไม่สนิท หลังคาที่คุ้มแดดดี กลับมีหยดน้ำไหลลงมาให้ความฉ่ำเย็นในทุกครั้งที่ฝนพรำ เพราะปัญหาจากการงานก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานแล้วล่ะสิ่งเหล่านี้เจ้าของบ้านสามารถ “เคลม” กับทางบริษัทรับสร้างบ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพราะมี “ประกัน” ที่เรียกว่า “ การรับประกันงาน” เอาไว้ โดยจะแยกเป็น งานรับประกันตัวบ้าน 1 ปี เสียหายซ่อมแซมฟรี งานรับประกันโครงสร้างหลักของบ้าน 5-10 ปี ขึ้นกับแต่ละบริษัท งานรับประกันหลังคารั่วซึม 5 ปี งานรับประกันปลวก พร้อมเข้าตรวจเป็นเวลา 1-3 ปี ขึ้นกับข้อตกลง
9.ตกแต่ง จัดสวน พร้อมเข้าอยู่
บ้านเดี่ยว ๆ อาจไม่เชิญชวนให้เข้าอยู่สักเท่าไร แถมยังไม่ค่อยมีเวลามานั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านหาร้านผ้าม่าน หาช่างบิวท์อินอีก แต่แค่มี “ไอเดีย” รู้ความต้องการ บ้านทั้งหลังก็พร้อมพรั่งด้วยข้าวของ เครื่องใช้ที่จำเป็น มองเห็น สัมผัสบรรยากาศความอบอุ่น น่าอยู่ได้แล้ว เพราะปัจจุบันมีบริษัทรับสร้างบ้านหลายแห่งเพิ่มแผนก เปิดบริษัท ขยายธุรกิจให้ครบวงจรครอบคลุมเรื่องบ้านตั้งแต่ต้นจนจบ มีอินทีเรียร์ที่จะช่วยต่อความฝันให้เป็นความจริง โดยสามารถเลือกระดับการตกแต่งได้ เช่น แค่งานบิวท์อินเท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้นภายนอกบ้านก็ควรต้องสวยชวนมอง จัดสวน-ลงต้นไม้- ปูหญ้า-ทำทางเดิน –เพิ่มมุมนั่งเล่นกลางแจ้ง อีกสักหน่อย บ้านของเราก็จะน่าอยู่ ร่มรื่น จนอยากอยู่โยงเฝ้าบ้านใหม่
...ไม่ยอมไปไหน
10. ถือสัญญา มั่นใจชัวร์
คำแนะนำของคนรู้จัก ไม่ได้ทำให้ “ผู้รับเหมา” นั้น ๆ น่าเชื่อถือได้เสมอ “หนังสือสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง” ที่เป็นสัญญา
มาตรฐานจะช่วยบรรเทาปัญหาที่อาจเกิดได้ในระดับหนึ่ง